หลายคนอาจจะเคยพบกับปัญหาท้องผูก แต่ก็ไม่รู้ถึงสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร ซึ่งอาการท้องผูกนี้ถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพตามมามากมายนะคะ
เรามารู้ที่มาของปัญหานี้ให้มากขึ้น เพื่อที่จะแก้ไขได้ตรงจุด ป้องกันไม่ให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาภายหลังกันค่ะ
1.กินอาหารที่มีเส้นใยน้อย
เหตุผลข้อแรกที่ทำให้เรามีอาการท้องผูก มาจากพฤติกรรมการกินอาหาร โดยคนที่ทานอาหารประเภทไฟเบอร์น้อย ก็จะทำให้การขับถ่ายยากขึ้น แก้ได้โดยทานผักผลไม้ที่มีเส้นใยอาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของไฟเบอร์
2.ขับถ่ายไม่เป็นเวลา
เมื่อไม่ได้มีการถ่ายของเสียออก อุจจาระก็จะขังอยู่ภายในลำไส้ ต่อมาร่างกายก็จะดูดน้ำจากอุจจาระกลับออกมาใช้อีกครั้ง ยิ่งทำให้อุจจาระแข็งแห้งมากขึ้น และทำให้คุณขับถ่ายลำบากจนเกิดอาการท้องผูกขึ้นได้นั่นเอง
3.ร่างกายไม่มีการเคลื่อนไหว
การนั่งทำงานติดโต๊ะเป็นเวลานาน จะทำให้ลำไส้ไม่ค่อยบีบตัว อุจจาระตกค้าง โดยเฉพาะสาวๆ ที่ทำงานออฟฟิศ แล้วไม่ค่อยอยากลุกไปเข้าห้องน้ำนานๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งด้วย ในข้อนี้สามารถแก้ไขได้โดยการออกกำลังกาย หรือขยับร่างกายให้มากขึ้นในระหว่างวัน เพื่อให้ลำไส้ได้ทำงาน
4.เครียด
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันสักเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วความเครียดเป็นจุดเล็กๆ ที่ทำให้มีอาการท้องผูกได้ โดยถ้าเรามีพฤติกรรมที่เครียดแล้วจะส่งผลไปถึงกระบวนการทำงานในร่างกายอื่นๆ อย่างการนอนไม่หลับ ระบบร่างกายรวน ทำให้ขับถ่ายยากขึ้น ทำตัวให้รีแลกซ์ไว้ร่างกายจะได้ขับถ่ายดีขึ้นนะคะ
5. กินยาระบาย
คนที่มีอาการท้องผูกบ่อยๆ อาจเลือกหาทางออกด้วยการกินยาระบาย ซึ่งเป็นการเร่งรัดให้ลำไส้ใหญ่ทำงานหนัก ซึ่งพอหยุดกินก็จะส่งผลให้ลำไส้ใหญ่ไม่ทำงานด้วยตัวเอง ต้องใช้ยาระบายตลอด และทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
เรื่องเล็กๆ เหล่านี้อาจเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม แต่ส่งผลต่อการขับถ่ายมากทีเดียว ใครที่กำลังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ล่ะก็ต้องรีบปรับเปลี่ยนก่อนที่จะมีอาการท้องผูกแบบเรื้องรังและต้องรักษากันใหญ่โตนะคะ